วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2567

คนไข้มีอาการปวดข้อหลายข้อ ต้องทำอย่างไร?

ในฐานะแพทย์กระดูกที่เจอคนไข้มีอาการปวดข้อหลายข้อ การตรวจวินิจฉัยจะต้องมีการพิจารณาตามสาเหตุที่เป็นไปได้ของอาการปวดข้อ ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับโรคทางระบบภูมิคุ้มกันหรือการอักเสบของข้อ แพทย์จึงต้องส่งตรวจเลือดและตรวจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้:

การตรวจเลือดพื้นฐาน

1. Complete Blood Count (CBC): เพื่อตรวจดูระดับเซลล์เม็ดเลือดขาว แดง และเกล็ดเลือด ซึ่งจะช่วยประเมินการอักเสบหรือการติดเชื้อ

2. Erythrocyte Sedimentation Rate (ESR): เพื่อดูระดับการอักเสบในร่างกาย

3. C-Reactive Protein (CRP): เพื่อตรวจสอบว่ามีการอักเสบเฉียบพลันหรือไม่

4. Uric Acid: สำหรับตรวจสอบโรคเกาต์ (gout)

5. Liver and Kidney Function Tests: เพื่อประเมินสภาพการทำงานของตับและไต ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากโรคข้อหรือยารักษา

การตรวจที่เกี่ยวข้องกับโรคข้ออักเสบทางภูมิคุ้มกัน

1. Rheumatoid Factor (RF): เพื่อตรวจหาสารภูมิคุ้มกันที่เกี่ยวข้องกับโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์

2. Anti-Cyclic Citrullinated Peptide (Anti-CCP): เป็นการตรวจเฉพาะสำหรับโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ที่มีความแม่นยำสูงขึ้น

3. Antinuclear Antibody (ANA): ใช้ในการวินิจฉัยโรคที่เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกัน เช่น โรคพุ่มพวง (Systemic Lupus Erythematosus)

4. HLA-B27: เพื่อวินิจฉัยโรคกระดูกสันหลังอักเสบติดยึด (Ankylosing Spondylitis) และโรคข้ออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

การตรวจเพิ่มเติม

1. Synovial Fluid Analysis: การเจาะดูดน้ำในข้อเพื่อตรวจหาการติดเชื้อ, เกาต์, หรือการอักเสบอื่น ๆ

2. X-ray / MRI: เพื่อประเมินความเสียหายของข้อหรือการอักเสบที่อาจเกิดขึ้น เช่น โรคข้อเสื่อม หรือโรคข้ออักเสบ

การวินิจฉัยอาการปวดข้อหลายข้อจำเป็นต้องพิจารณาทั้งอาการทางคลินิก ประวัติสุขภาพ และผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการที่ครอบคลุมเพื่อให้ได้คำตอบที่แม่นยำ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น